วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แต่งตัวอย่างไร ให้ดูผิวขาว






         คนทุกเพศทุกวัย ใครๆก็อยากที่จะมีผิวขาวกันเนอะ เพราะผิวขาวน่ะจะใส่อะไรก็สวย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า โอ๊ย!สารพัด แต่คนผิวเข้มหรือผิวคล้ำก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจไป มีวิธีในการแต่งตัวให้ดูดีได้ไม่แพ้คนผิวขาวแน่ นอน

      เริ่มด้วยสีสันของเสื้อผ้ากันดีกว่า สำหรับคนผิวขาวจะเลือกแต่งสีสันสดใสยังไงก็ได้ ในขณะที่คนผิวคล้ำต้องเลือก สีสันที่ไม่ตัดกันจนเกินไป เพียงแค่ปรับเอาสีสันมาใส่กะสีพื้นๆเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เสื้อสีนู๊ดๆ กับ กระโปรงสีดำมีโบว์เล็กๆ น่ารักหรือกางเกงยืนฟอก(ที่สีซีดๆน่ะจ๊ะ)ก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน และที่สำคัญยังดูโดดเด่นและดูดีได้อีกด้วยนะ

      การจะแต่งตัวให้ดูดีนั้นต้องมาควบคู่กับความมั่นใจนะจ๊ะ แต่ละคนไม่ว่าจะผิวขาวหรือผิวคล้ำก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่ แตกต่างกัน เราจึงควรที่จะดึงจุดเด่นของตัวเองออกมานะคะ อย่างเช่น ผิวคล้ำแต่ขาสวย ก็อาจจะเลือกใส่กระโปรงสั้นหรือ กางเกงขาสั้นก็ดูสวยมั่นใจและโฉบเฉี่ยว หรือถ้าผิวคล้ำเรียบเนียนก็ลองใส่เสื้อเปิดไหล่ดูสิ ดูดีไปอีกแบบคะ

      มาดูเครื่องประดับกันบ้างดีกว่าคะ เครื่องประดับเป็นสิ่งที่ช่วยให้การแต่งตัวให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น และยังช่วยขับผิวอีก ด้วยนะ เช่น สร้อยไข่มุก เสื้อผ้าที่ใส่ก็ควรเป็นแบบเปิดหน่อยค่ะ เช่น เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว เกาะอก เป็นต้นค่ะ เพราะไม่ เหมาะกับเสื้อผ้าหนักๆ สวมทับหลายๆตัวอย่าง เสื้อเชิ้ตใส่สูททับ
         แค่นี้เราก็ดูดีได้ในสไตล์ของตัวเองแล้วนะค่ะ เพียงแค่เรารู้จักจับนู่นแต่งนี่ให้เข้ากับบุคลิก ดึงจุดเด่น ลบจุดด้อย ก็สวยไม่ แพ้ใครแล้วคะ


        - สำหรับคนผิวคล้ำ ควรใส่เสื้อผ้าโทนสีเบจ จะช่วยขับผิวให้ดูสว่าง ขาวขึ้นนะจ๊ะ

        - ความมั่นใจ ก็ทำให้เราดูดีได้เหมือนกันนะ


ดูข้อมูลที่  http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ผิวสวยผุดผ่องจากภายใน…สร้างได้ไม่ยาก>>>>>ด้วยสบู่คลอลาเจน


นอกจากการดูแลผิวพรรณภายนอกให้สวยกระจ่างใสได้แล้ว การดูแลผิวพรรณให้สวย ผุดผ่องจากภายในก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน และอีกเช่นเคย เราไม่พลาดที่จะนำเทคนิควิธีการดูแลผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอกมาฝากกันอยู่แล้วค่ะ




1.กินอาหารเพื่อสุขภาพผิว – ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ให้ผิวพรรณสามารถสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูตัวเองให้เกิดเซลล์ผิวที่แข็งแรงได้ นอกจากนี้ ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน เกลือแร่ ที่จำเป็นต่อร่างกายยังช่วยให้ผิวกระจ่างสดใสได้ และการกินผลไม้ที่ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก อย่างลูกพรุน มะละกอ ฯลฯ ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่เผยผิวกระจ่างใสได้เช่นกัน




2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ –การดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เป็นการคืนอาหารผิวชั้นเยี่ยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่าการดื่มน้ำมักทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีความชุ่มชื้นเสมอ ยิ่งสำหรับสาวผิวแห้ง แนะนำให้พกพาขวดน้ำไว้ดื่มเรื่อยๆ เพราะน้ำจะช่วยฟื้นฟูเซลล์อ่อนล้าให้เปล่งปลั่ง แข็งแรงได้เป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายและสมองสดชื่นเต็มที่






3.นอนพักผ่อนให้เต็มอิ่ม– การนอนวันละ 7-8ชั่วโมงหรือนอนให้ร่างกายรู้สึกเต็มอิ่ม พบว่าหลังจากตื่นนอนมาแล้วผิวพรรณจะไม่เหี่ยวแห้งหรือทรุดโทรมแต่อย่างใด แต่หากเมื่อไรที่คุณนอนหลับไม่เพียงพอเมื่อนั้นคุณจะพบความหมองคล้ำ บนสภาพผิวอย่างเห็นได้ชัด ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งสดใสอย่างใจ เนื่องจากการนอนหลับให้เต็มอิ่มจะทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังไปพร้อมกันนั่นเอง




4.ออกกำลังกาย –ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นตัวกระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ช่วยเผยผิวพรรณสดใสให้คุณได้ หากต้องการผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ สุขภาพแข็งแรงแล้ว ผิวพรรณย่อมดีตามแน่นอน



อย่าลืมนำเทคนิควิธีดูแลผิวสวยผุดผ่องจากภายในไปใช้กันนะคะ รับรองคุณจะมีผิวพรรณสวยสมใจได้ไม่ยาก และใครที่เข้าใกล้เป็นต้องสะดุดตาไปตามๆ กันแน่นอน



    

ดูข้อมูลที่  http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com



วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บำรุงผิวสวยจากภายนอกทำได้ไม่ยากแค่ใช่สบู่คลอลาเจน







เรื่องของผิวพรรณเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราขาดการละเลยไม่ได้เลยจริงๆ เพราะเปรียบเสมือนหน้าต่างบานที่สองรองจากดวงตา ทำให้หลายคนที่พบเห็นสามารถประทับใจสะดุดตาเหมือนรักแรกพบได้ ก็เพราะการมีผิวพรรณสวยงาม เปล่งปลั่ง ผ่องใส หันไปทางไหนก็แลมีความเป็นออร่าเจิดจรัสอยู่ตลอดเวลา และเราก็มีวิธีปรนนิบัติผิวพรรณภายนอกของสาวๆ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เพื่อให้ผิวของคุณสวย กระจ่างใส สะดุดตา เรามาทราบเทคนิควิธีดูแลผิวจากภายนอกไปพร้อมกันเลย


1.ขัดผิ การขัดผิวอย่างที่ทราบดีแล้วว่าจะช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก เนื่องจากผิวหนังของคนเรามีผิวที่ตายแล้วหลุดออกอยู่เสมอ ดังนั้น ขณะอาบน้ำให้ทำการขัดผิวด้วยสครับที่เป็นเม็ทบีทส์ละเอียดเล็กๆ ซึ่งมีความอ่อนโยนอย่างเบามือ หรือใช้ใยบวบ ใยสังเคราะห์ทำการขัดผิวแทนก็ได้เช่นกัน เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้ผิวพรรณผ่องใส และขาวกระจ่างใสขึ้นได้

2.ทาโลชั่นบำรุงผิว สำหรับสาวผิวแห้งควรเลือกส่วนผสมที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เป็นหลักเพื่อคืนความชุ่มชื้นสู่ผิว ทำให้ผิวพรรณไม่หยาบกร้าน หมองคล้ำ และสารอาหารจากโลชั่นจะซึมซาบเข้าผิวได้เป็นอย่างดี แนะนำให้รีบชโลมผิวด้วยโลชั่นทันทีหลังอาบน้ำเสร็จและเพิ่งเช็ดตัวหมาดๆ เพื่อให้เนื้อโลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

3.ทาครีมกันแดดป้องกันผิวเสีย เคยเห็นใช่ไหมคะว่าผิวคล้ำเสียจากแสงแดดเป็นอย่างไร ผิวที่หยาบกร้าน มาพร้อมความหมองคล้ำนั่นไงคะผิวที่ถูกแสงแดดทำร้าย จนเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นในเวลาต่อมา ทางป้องกันเพียงสาวๆ ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงหรือกางร่ม ใส่แว่นตา สวมเสื้อคลุม และหมวกปกปิดผิวก็ช่วยได้เช่นกัน

4.พอกผิวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติสม่ำเสมอ หาเวลาว่างๆ ทำการพอกผิวด้วยส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง มะนาว มะขามเปียก มะเขือเทศ ส้ม ดินสอพอง แตงกวา แอปเปิ้ล แครอท ข้าวโอ๊ต นม ขมิ้น ฯลฯ ส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติเหล่านี้ หาได้รอบตัวเลยล่ะ ลองเปิดจากในตู้เย็นดู มีอะไรที่สามารถนำมาพอกผิวทั้งใบหน้าและลำตัวได้ก็รีบชโลมทิ้งไว้เลยค่ะ หมั่นพอกผิวสม่ำเสมอจากส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นการเติมอาหารผิวโดยตรง รับรองผิวสว่าง กระจ่างใส ผุดผ่องทั่วเรือนร่างจนใครเห็นเป็นต้องทักอย่างแน่นอน

หวังว่าไม่ใช่เรื่องที่ทำยากอีกต่อไปนะคะ กับการปรนนิบัติบำรุงผิวสวยจากภายนอก หมั่นดูแลและเติมอาหารผิวสม่ำเสมอเช่นนี้ รับรองผิวสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติจนคุณเองต้องหลงใหล เชื่อสิ



    

ดูข้อมูลที่  http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com


วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ถนอมผิวหน้าหนาวให้สวยอยู่เสมอ





หน้าหนาวแวะเวียนมาทักทายผิวสาวทีไร ใครบ้างไม่วิตกกังวลพะวงเรื่องผิวพรรณกันจริงมั้ยคะ โดยเฉพาะกับสาวที่มีผิวแห้งยิ่งเครียดไปกันใหญ่ เพราะลมหนาวที่โบกมือทักทายนั้นจะทำหน้าที่ดูดซับความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังให้ระเหยมากับอากาศที่แห้งมากขึ้น ส่งผลให้เกิดผิวแตกเป็นขุย มีอาการคันและแสบยิบๆ ตามมากวนใจอีก แบบนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ดังนั้น มาดูวิธีป้องกันเพื่อช่วยถนอมผิวหน้าหนาวให้สวยชุ่มชื้นอยู่ตลอดกันดีกว่า



น้ำมีความจำเป็นต่อเซลล์ผิวหนังเป็นอย่างมากเนื่องจากร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 70% ดังนั้น นอกจากจะทำให้ผิวพรรณดี เปล่งปลั่งได้แล้ว ยังช่วยให้ระบบอวัยะวะต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างสมดุลย์มากขึ้น ยิ่งดื่มน้ำให้ครบ 8-10 แก้วในแต่ละวัน สภาพผิวที่แห้งก็จะปรับตัวให้ชุ่มชื้นไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่นมาคอยกวนใจได้อย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน


ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวราคาถูกมากๆ หรือราคาปานกลางมักมีส่วนผสมของน้ำมันปิโตรเลียม(Mineral Oil) ส่วนผสมนี้จะปิดเคลือบผิวชั้นนอกด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้ช่วยให้สภาพผิวชุ่มชื้นขึ้นได้เลย หลายครั้งหากคุณสังเกตว่าเมื่อทาเสร็จแล้วยังต้องกลับมาทาซ้ำใหม่อีกครั้ง นั่นก็เพราะยังคงรู้สึกว่าใบหน้ายังคงแห้งตึงเหมือนเดิม จะให้ดีลงทุนเสียเงินเพิ่มอีกหน่อยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้มาตรฐานเพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ใบหน้า อาจเลือกที่มีส่วนผสมสำคัญอย่างHumectant กรดไฮยารูโลนิค ซึ่งเป็นสารในการสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


แม้หน้าหนาวจะเป็นช่วงเวลาของการอาบน้ำอุ่นโดยแท้ แต่หากเรามีสภาพผิวแห้ง คงไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน เนื่องจากจะยิ่งดูดซับน้้ำมันหล่อเลี้ยงที่อยู่ใต้ผิวให้ออกมามากขึ้น ทำให้เกิดผิวแห้ง แตกเป็นขุยยิ่งกว่าเดิมได้อีก แถมยังมีสะเก็ดให้เราเห็นตอกย้ำจนช้ำหัวใจอีกต่างหาก


เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยปกติผิวหนังเราแทบจะไม่มีเหงื่อไคลไหลย้อยอยู่แล้ว หากไม่ได้ทำงานท่ามกลางความสกปรกที่อาจปนเปื้อนมาอย่างจริงจัง ดังนั้น ขณะอาบน้ำอาจจะหลีกเลี่ยงการขัดผิว จากที่เคยขัดบ่อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน ก็เปลี่ยนมาขัดสัปดาห์ละ1 วันก็พอแล้ว เพราะเพียงแค่สภาพอากาศก็ทำร้ายผิวเรามากเกินพอแล้ว แต่หากคุณยิ่งขัดผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวหนังล่ะก็ เผลอๆ จะเป็นการกระตุ้นให้ผิวลอกล่อน แห้งแตกเป็นขุย และยังทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับวิธีถนอมผิวหน้าหนาวให้สวยอยู่เสมอ หน้าหนาวมาทักทายนั้น ไม่ว่าสภาพผิวไหนเป็นต้องถูกทำลายอยู่แล้ว ดังนั้น หันมาถนอมผิวด้วยเคล็ดลับดีๆ จากเรากันเถอะค่ะ


ดูข้อมูลที่ http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การชะลอความแก่ ความแก่ไม่ใช่สิ่งธรรมชาติ >>>>ด้วยสบู่คลอลาเจน


จากบทความที่แล้วทำให้เรารู้แล้วว่าความแก่ที่เกิดจากปัจจัยภายในคืออะไร  ต่อไปเราจะมาดูปัจจัยภายนอกกันบ้าง

ปัจจัยที่สำคัญในการทำให้คนเราแก่ก็คือ อนุมูลอิสระ ซึ่งที่กล่าวมาแล้วคืออนุมูลอิสระที่มีอยู่ภายในร่างกาย ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมา
ส่วนอนุมูลอิสระที่อยู่ภายนอกร่างกาย จะมาจากสิ่งแวดล้อมต่างๆและอาหารการกิน รวมถึงการพฤติกรรมจากการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ





จากมลพิษทางอากาศ แน่นอนเราทุกคนต้องหายใจ และสภาพอากาศที่เราอยู่ในเมืองเดี๋ยวนี้ก็เต็มไปด้วยมลพิษจากโรงงาน รวมไปถึงจากยานพาหนะต่างๆ ควันจากท่อไอเสีย ซึ่งสารไฮโดรคาร์บอนเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกลายเป็นอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์ร่างกายเสื่อมสภาพและยังเป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย
แสงอาทิตย์ที่แรงจัดในตอนกลางวัน ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เร่งให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดในช่วงที่แสงแดดแรงจัด
นอกจากนี้ยังมีสารตกค้างจากในน้ำ และในดิน ซึ่งส่งผลกระทบเมื่อเราอุปโภคบริโภคอีกต้วย


ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าเราจะกินอะไรล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น กินเนื้อสัตว์ก็อาจจะมีสารเร่งเนื้อแดง กินผักก็มีการตกค้างของยาฆ่าแมลง

นอกจากนี้ยังมีอาการบางชนิดที่มีความเสี่ยงสูงเช่น อาหารปิ้งย่าง (หมูกระทะนี่ตัวดีเลย) อาหารทอดที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ (ถ้าไม่ทอดเองก็ซวยไปไม่รู้เค้าใช้น้ำมันเก่ารึเปล่า)


อย่างเช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอนุมูลอิสระเลยทีเดียว การดื่มสุรา ก็เช่นเดียวกัน หากไม่เมาขับรถชนตายไปซะก่อนก็จะมีการสะสมทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกันนอกจากนี้ยังมีอื่นๆอีกมากมาย




    

ดูข้อมูลที่  http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การดูแลผิวสวยด้วย ผลไม้ 9 อย่าง หรือใช้สบู่คลอลาเจนเป็นทางเลือกให้ผิวคุณ


การดูแลผิวให้สวย ใส สุขภาพดี เป็นเรื่องที่คุณสาวๆ พลาดไม่ได้เลย และคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการให้ผิวสวยใช่หรือป่าวคะ วันนี้จะมีเคล็ดลับจากผล ไม้ 9 อย่าง เชื่อไหมคะว่าการที่เราเลือกกินผลไม้บางอย่างนั้น นอกจากจะได้ความอร่อยแล้วยังช่วยบำรุงผิวของเราได้อีกด้วย

1 ส้ม
ส้มซึ่งมีหลายชนิดและเลือกรับประทานได้ ผลที่มีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ส้มนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนไวตลอด เวลา


2 มะนาว
นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย


3 ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึง ไม่แก่ก่อนวัยซึ่งคอยบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือคอลลาเจนตัวเดียวกับที่ทำ ให้หน้าสาวๆอย่างเราเต่งตึงนี่แหละค่ะ นอกจากนี้น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง มีฤทธิ์แก้คออักเสบ เสียงแห้งด้วยค่ะ


4 กล้วย
กล้วยทุกชนิดนั้นดีต่อสุขภาพแต่แนะนำให้ทานกล้วยไข่ค่ะ ซึ่งกล้วยไข่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยอื่นๆเป็นพิเศษค่ะ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนั้นไม่เหี่ยวย่นไปตามวัยค่ะ

5 กีวี
กีวีซึ่งมีวิตามินอีมากสุดจากการวิจัยค่ะ และประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ




6 แครอต
แครอตนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงที่สุดในบรรดาผักสีส้มด้วย กันค่ะ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนสภาพเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดและรักษาโรคตาฟางได้อีกดวยค่ะ และนอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจาก ควันบุหรี่และแสงแดดที่แรงจัดได้ค่ะ



7 อะโวคาโด
อะโวคาโด้นั้นเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยค่ะ เพราะวิตามินบีในอะโวคาโด จะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษได้ด้วยค่ะ และการกินอะโวคาโดวันละผลจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่ร่างกายต้อง การเพียงพอในแต่ละวันค่ะ

8 มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนมากค่ะและสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มได้ค่ัะ มะเขือเทศนั้นมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูงค่ะ เพราะมะเขือเทศมีวิตามินพี ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดัน และมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิด ลักเปิดและช่วยการช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย

9 ทุเรียน
คงแปลกใจใช่ไหมหล่ะคะทำไมถึงมี ทุเรียนติดมาด้วย ซึ่งทุเรียนนั้นถึงแม้อาจจะอ้วนแต่ว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีความร้อน ทำให้แก้โรคผิวหนังหรือทำให้ฝี-หนอง แห้งและเนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิอีกด้วยค่ะ ส่วนเปลือกหนามทุเรียนนั้นนำมาสับแล้วแช่ในน้ำปูนใสสามารถใช้ชะล้างแผลที่ เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูมได้ค่ะ และยังสามารถเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วยค่ะ ส่วนใบของทุเรียนนั้นสามารถใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิด้วยค่ะ สุดท้ายรากจากต้นทุเรียนนำไปตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์จริงเลยค่ะ(แต่บริโภคแต่พอดีนะคะ) 

    



ดูข้อมูลที่  http://pannfitcollagen.blogspot.com/


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

คุณ วราพร แคล้วศึก

เบอร์โทร 0859083178

อีเมล์pannfit@gmail.com